การใช้พลาสติกคลุมดินในการเกษตรมีประโยชน์อย่างมาก ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันวัชพืชและรักษาความชื้นในดิน แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกพืชหลายชนิด เช่น ผักครัวสวนและผลไม้ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเรื่องต่าง ๆ ดังนี้. การใช้พลาสติกคลุมดินสามารถช่วยป้องกันการระเหยของน้ำและควบคุมการสูญเสียน้ำในฤดูแล้ง ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืชที่อาจแย่งทรัพยากรของพืชเศรษฐกิจ อีกทั้งยังช่วยลดการใช้สารเคมีในการควบคุมวัชพืชและโรคพืชอีกด้วย ทำให้การเกษตรเป็นไปได้ในลักษณะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน.

พลาสติกคลุมดิน (Plastic Mulch) เป็นวัสดุพลาสติกที่มีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ นำมาคลุมดินเพื่อปรับปรุงสภาพดินและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร พลาสติกคลุมดินมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน พลาสติกคลุมดินที่นิยมใช้กันทั่วไป ได้แก่

  • พลาสติกคลุมดินสีดำ (Black Plastic Mulch) เป็นพลาสติกคลุมดินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชื้นในดิน ป้องกันวัชพืช และควบคุมอุณหภูมิของดิน
  • พลาสติกคลุมดินสีเงิน (Silver Plastic Mulch) เป็นพลาสติกคลุมดินที่สะท้อนแสงแดด ช่วยให้ดินเย็นลง ป้องกันวัชพืช และควบคุมอุณหภูมิของดิน
  • พลาสติกคลุมดินเจาะรู (Perforated Plastic Mulch) เป็นพลาสติกคลุมดินที่มีรูเจาะขนาดเล็ก ช่วยให้น้ำและอากาศสามารถซึมผ่านได้ เหมาะสำหรับการปลูกพืชที่ต้องใช้น้ำมาก

จุดประสงค์หลายของการใช้พลาสติกคลุมดินในการเกษตร

  1. ป้องกันการสูญเสียน้ำ: การคลุมดินด้วยพลาสติกช่วยป้องกันการระเหยของน้ำที่อาจจะรั่วไหลหรือบริเวณรากพืช ทำให้รักษาความชื้นในดินได้ดีกว่า ช่วยลดการสูญเสียน้ำที่อาจเกิดขึ้นในสภาวะอากาศร้อนและแล้ง.
  2. ควบคุมการเจริญเติบโตของวัชพืช: การใช้พลาสติกคลุมดินช่วยป้องกันแสงแดดและอากาศจากการเข้าถึงพื้นดิน จะช่วยลดโอกาสให้วัชพืชเจริญเติบโตได้ นั่นจะช่วยในการควบคุมปัญหาวัชพืชที่สามารถแย่งอาหารและทรัพยากรที่จำเป็นของพืชเศรษฐกิจ.
  3. เพิ่มอุณหภูมิดิน: การใช้พลาสติกคลุมดินช่วยกวาดขึ้นเกิดผลความร้อนในดิน ทำให้เพิ่มอุณหภูมิในดินในช่วงกลางวัน ช่วยให้การเจริญเติบโตของพืชที่ต้องการอุณหภูมิดินสูง เช่น พืชตระกูลผักในฤดูหนาว เป็นไปได้.
  4. ป้องกันการแพร่ระบาดของโรค: การคลุมดินช่วยป้องกันการกระจายโรคจากดิน โดยเฉพาะในกรณีที่เชื้อโรคแพร่กระจายผ่านดินหรือน้ำ การลดการสัมผัสระหว่างพืชกับดินอาจช่วยลดความเสี่ยงของการระบาดโรค.
  5. การจัดการเคมี: การใช้พลาสติกคลุมดินอาจช่วยลดการใช้สารเคมีในการควบคุมวัชพืชและโรคพืช เนื่องจากการป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืชและการกระจายโรคได้เป็นอย่างดี.
ประโยชน์ของการใช้พลาสติกคลุมดินสำหรับพืชการเกษตร

พืชเกษตรที่จำเป็นต้องใช้พลาสติกคลุมดิน

การใช้พลาสติกคลุมดินสามารถช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวบางชนิดของพืชเกษตรได้ นี่คือบางตัวอย่างของพืชที่มักจะใช้พลาสติกคลุมดิน:

  1. ผักครัวสวน: พลาสติกคลุมดินใช้ในการปลูกผักครัวสวนเช่น ผักชนิดต่าง ๆ เช่น ถั่วฝักยาว แตงกวา มะเขือเทศ พริก หรือผักใบเขียวต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของวัชพืชและควบคุมการระบาดของโรคพืช นอกจากนี้ยังช่วยรักษาความชื้นในดินและลดการใช้น้ำในการรดน้ำ.
  2. ผลไม้: ในการปลูกต้นไม้ผล เช่น มะละกอ ส้ม มังคุด มังคุด หรือทุเรียน พลาสติกคลุมดินช่วยในการควบคุมวัชพืชและเพิ่มอุณหภูมิดินในช่วงกลางวัน ช่วยในกระบวนการเจริญเติบโตและการผลิตผลไม้.
  3. พืชสวนครัว: นอกจากผักครัวสวนแล้ว พลาสติกคลุมดินยังสามารถใช้ในการปลูกพืชสวนครัวอื่น ๆ เช่น สมุนไพร เช่น ตะไคร้ กระเทียม หรือมินต์ เพื่อป้องกันวัชพืชและเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโต.
  4. พืชพันธุ์เลี้ยง: สำหรับพืชพันธุ์เลี้ยงหรือพืชที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น ข้าว อ้อย ข้าวโพด หรืออาหารเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เช่น มันสำปะหลัง จังหวัด ฯลฯ การคลุมดินช่วยป้องกันวัชพืชและรักษาความชื้นในดิน.

การใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยทำงานสำหรับคลุมหน้าติดด้วยพลาสติก

พลาสติกคลุมดินเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงสภาพดินและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เกษตรกรควรพิจารณาใช้พลาสติกคลุมดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิต จำได้ว่าไม่ใช่พืชทุกชนิดจำเป็นต้องใช้พลาสติกคลุมดิน การใช้งานนั้นควรพิจารณาด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืนในการเกษตร