เห็ดเผาะ หรือบางพื้นที่เรียกว่า “เห็ดถอบ” เป็นของหายากที่หลายคนรอคอยในฤดูฝน เพราะรสชาติเฉพาะตัว กรอบนอก นุ่มใน กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ กินกับน้ำพริกหรือผัดเผ็ดก็เด็ดสุด ๆ แต่รู้มั้ยว่าแต่ก่อนการเก็บเห็ดเผาะมักต้องเผาป่าเพื่อกระตุ้นการเกิดเห็ด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาไฟป่าและทำลายระบบนิเวศแบบไม่รู้ตัว

แต่เดี๋ยวนี้…ชุมชนหัวคู จังหวัดขอนแก่น เขาพลิกวิธีคิด! เปลี่ยนการ “เผา” เป็น “เพาะ” แถมเพาะสำเร็จจริง ไม่ใช่แค่ทดลองนะ! ด้วยความร่วมมือจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสถาบันวิจัยพืชสวน ทำให้สามารถขยายพันธุ์เห็ดเผาะในระบบการเพาะเลียนแบบธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

จุดเริ่มต้นของการเพาะเห็ดเผาะแบบไม่ต้องเผา เริ่มจากการเข้าใจวงจรชีวิตของเห็ดเผาะ ซึ่งต้องอาศัยรากไม้เป็นตัวพยุงให้เจริญเติบโต การเพาะจึงเน้นที่การปลูกไม้ร่วม เช่น ไม้ยางนา ไม้แดง หรือไม้เต็ง เพื่อให้เห็ดเผาะเกาะอยู่ที่รากและเติบโตขึ้นตามธรรมชาติ

นอกจากจะไม่ต้องเผาป่าแล้ว วิธีนี้ยังได้ผลผลิตสม่ำเสมอ สร้างรายได้ให้กับชุมชนตลอดปี และที่สำคัญคือ เห็ดเผาะที่เพาะเองรสชาติไม่ต่างจากในป่าเลย!

ชาวบ้านในชุมชนหัวคูยังสามารถพัฒนา “แปลงเรียนรู้การเพาะเห็ดเผาะ” เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ให้คนทั่วไปได้เข้ามาศึกษา สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพิ่มอีกทาง และยังช่วยลดภาระการหาเห็ดในป่า ลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม

การเพาะเห็ดเผาะอาจใช้เวลานานกว่าการเก็บจากป่า แต่มันคือการลงทุนระยะยาวที่ยั่งยืน และเป็นการสร้างอาหารจากธรรมชาติที่ปลอดภัย ปลอดสารพิษ ที่ทุกคนเข้าถึงได้

หากใครสนใจอยากลองเพาะเห็ดเผาะเอง ก็สามารถเรียนรู้จากต้นแบบที่ขอนแก่นได้เลย เพราะเขามีทั้งคู่มือการเพาะ การเลือกต้นไม้ที่เหมาะสม วิธีปลูก การดูแลรักษา รวมถึงเทคนิคการสร้างเงื่อนไขที่เอื้อต่อการเติบโตของเห็ด

สรุปคือ เห็ดเผาะไม่จำเป็นต้องได้จากการเผาป่าอีกต่อไป ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้ากับวิถีชุมชน ไม่ใช่แค่เห็ดเผาะเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่ทั้งโลกก็ได้ด้วย 🌱🍄