ชาใบหม่อนถูกพูดถึงว่าเป็น “ทีเด็ดสมุนไพรลดน้ำตาล” มานาน แต่จริง ๆ แล้วมันเวิร์กแค่ไหน? วันนี้เราหยิบทุกข้อดี ข้อควรระวัง และเคล็ดลับการชงมาบอกกันแบบเต็ม ๆ ภาษากันเอง อ่านจบแล้วจะรู้เลยว่าควรมีใบหม่อนติดบ้านไว้หรือไม่!
ทำความรู้จัก “ใบหม่อน” แบบย่อแต่ครบ
ใบหม่อน (Mulberry leaf) คือใบของต้นหม่อนที่เราเอามาเลี้ยงไหมนั่นแหละ แต่ในวงการแพทย์แผนจีนกับสมุนไพรไทยมองไกลกว่านั้น เพราะใบหม่อนอุดมไปด้วยโปรตีน 10–27 % (สูงกว่าใบชาเขียวเยอะ), วิตามิน A, B1, B2, C, E, แร่ธาตุจำพวกแคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม และใยอาหารเพียบ แถมยังมีสารสำคัญคือ DNJ (1-Deoxynojirimycin) ตัวลดดูดซึมกลูโคสที่ขึ้นชื่อเรื่องคุมระดับน้ำตาล
จุดเด่นที่คนนิยม
-
คุมระดับน้ำตาลในเลือด
– DNJ เข้าไปยับยั้งเอนไซม์ย่อยแป้ง ทำให้น้ำตาลพุ่งช้าลง ผลวิจัยในญี่ปุ่นพบว่าดื่มชาใบหม่อน 1 ถ้วยก่อนอาหารคาร์บหนัก 15 นาที ช่วยลดค่ากลูโคสหลังมื้อได้เฉลี่ย 20-25 % -
ลดไขมัน & คอเลสเตอรอล
– สารฟลาโวนอยด์ช่วยสลาย LDL (ไขมันตัวร้าย) พร้อมเพิ่ม HDL (ไขมันตัวดี) งานวิจัยปี 2023 ของ Thai Journal of Phytopharmacy รายงานว่ากลุ่มทดลองดื่ม 3 ถ้วย/วัน นาน 8 สัปดาห์ ไขมันรวมลดลงเฉลี่ย 10 mg/dL -
ไฟเบอร์สูง ช่วยพุงแบน
– ใยอาหารในใบหม่อนช่วยให้ลำไส้ขยับดี ท้องไม่ผูก จึงเหมาะกับคนเริ่มคุมแคล -
แอนติออกซิแดนต์แรง
– เควอซิตินและรูตินในใบหม่อนจัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเกรดเอ ช่วยชะลอผิวแก่ ลดการอักเสบในร่างกาย -
ปรับสมดุลความดัน
– โพแทสเซียมสูงช่วยขับโซเดียมส่วนเกิน จึงลดความเสี่ยงความดันโลหิตสูงได้อ้อม ๆ
ใครควรลองดื่ม?
-
คนที่มีภาวะน้ำตาลสูงหรือเสี่ยงเบาหวาน
-
สายไดเอตที่อยากหาเครื่องดื่ม 0 แคล
-
คนทำงานหน้าคอม ต้องการตัวช่วยต้านอนุมูลอิสระ
-
ผู้สูงวัยที่ต้องดูแลไขมันเลือด
วิธีชงให้อร่อยและได้สรรพคุณเต็มๆ
-
เลือกใบ – ใช้ใบหม่อนแห้งออร์แกนิก สีเขียวหม่น ไม่ขึ้นรา
-
ปริมาณ – 1 ช้อนโต๊ะใบแห้ง ต่อน้ำร้อน 250 มล.
-
อุณหภูมิ – น้ำเดือด 95 °C ช่วยดึงสาร DNJ ออกมาง่าย
-
เวลาชง – แช่ 3-5 นาที พอให้รสหวานธรรมชาติออกมา หากนานเกินจะขม
-
ทิปเพิ่มรส – ใครชอบหวานเบาๆ ใส่หญ้าหวานปลายช้อน หรือบีบน้ำมะนาวหยดเดียวได้วิตามิน C เสริม
ดื่มตอนไหนเวิร์กสุด?
-
ก่อนอาหารคาร์บหนัก 10-15 นาที เพื่อสกัดน้ำตาล
-
ช่วงบ่าย แทนกาแฟ ลดคาเฟอีนแต่ยังสดชื่น
-
ก่อนนอน 2 ชม. ถ้าต้องการช่วยย่อยและหลับสบาย (ไม่มีคาเฟอีน)
ข้อควรระวัง
-
คนที่ทานยาลดน้ำตาลหรืออินซูลินอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะใบหม่อนอาจเสริมฤทธิ์ยา
-
สตรีมีครรภ์ควรดื่มในปริมาณพอเหมาะ (ไม่เกิน 1 ถ้วย/วัน)
-
หากเป็นโรคตับหรือไตขั้นรุนแรง ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์สมุนไพรเข้มข้นทุกชนิด
“ชาใบหม่อน vs ชาเขียว” ต่างกันยังไง?
คุณสมบัติ | ชาใบหม่อน | ชาเขียว |
---|---|---|
คาเฟอีน | 0 | 20-45 มก. |
สารเด่น | DNJ, ใยอาหาร, ฟลาโวนอยด์ | EGCG, คาเตชิน |
รสชาติ | กลมกล่อมหอมหวานปลายลิ้น | ฝาดขมเล็กน้อย |
เหมาะกับ | คนต้องการคุมน้ำตาล, ดื่มก่อนนอน | คนต้องการตื่นตัวเร็ว |
DIY เมนู “มัทฉะใบหม่อนลาเต้”
-
ชงใบหม่อนแห้ง 2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 100 มล. แช่ 5 นาที
-
เติมนมอัลมอนด์เย็น 150 มล. + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
-
ใส่น้ำแข็ง คนให้เข้ากัน ได้เครื่องดื่มแคลต่ำสุดชิลล์
สรุป: ดื่มไม่เสียหาย แต่อย่าเพิ่งมโนว่าแก้โรคทุกอย่าง
ชาใบหม่อนคือทางเลือกดีสำหรับใครที่ต้องคุมระดับน้ำตาลหรืออยากได้สารต้านอนุมูลอิสระแบบไม่มีคาเฟอีน แต่ “อาหารคือยา” ได้ก็ต่อเมื่อทานพอดี ควบคู่กับการออกกำลังและกินครบ 5 หมู่ ดังนั้นถือซะว่าใบหม่อนเป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่แก้ทุกโรค แล้วความเฮลธ์ตี้จะเกิดขึ้นจริง!