กระเทียมเป็นสุดยอดเครื่องเทศและสมุนไพรที่ทุกครัวต้องมี! จะทำต้ม ผัด แกง ทอด หรือยำ ก็ขาดกระเทียมไม่ได้เลย แถมการปลูกกระเทียมก็ง่ายกว่าที่คิด ปลูกครั้งเดียวได้ประโยชน์หลายต่อ ทั้งเก็บหัวไว้ใช้ในครัวยาว ๆ หรือจะเด็ดใบอ่อนมาเจียวไข่ก็หอมอร่อยขั้นเทพ บทความนี้จัดเต็มให้แบบครบเครื่อง ตั้งแต่ “วิธีปลูกกระเทียมในแปลง – ในกระถาง – ปลูกขาย – ปลูกให้หัวใหญ่ – กระเทียมจีน – ปลูกกินใบ” พร้อมบอกด้วยว่าต้องรอ “กี่วันกี่เดือน” ถึงเก็บได้จริง เอาไปใช้ได้ชัวร์ทั้งสายปลูกเล่น ๆ และสายปลูกจริงจังที่หวังผลผลิตเลย
🔎 ทำความรู้จัก “กระเทียม” ก่อนลงมือปลูก
กระเทียม (Allium sativum) เป็นพืชหัวที่อยู่ตระกูลเดียวกับหอมแดงและหอมหัวใหญ่ เขาจะชอบอากาศที่ค่อนข้างเย็น แดดต้องจัดจ้าน ดินที่ชอบคือดินร่วนซุย ระบายน้ำดี ๆ ปลูกได้เกือบทุกภาคของไทย แต่ถ้าอยากได้หัวสวยสมใจ หัวแน่น ๆ หอม ๆ แนะนำให้ปลูกช่วง “ปลายฝน-ต้นหนาว” หรือประมาณเดือน ต.ค. – ก.พ. ตามคำแนะนำของกรมส่งเสริมการเกษตร (ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร)
ถ้าเลือกฤดูปลูกถูก ดินดี น้ำดี ปุ๋ยถึง กระเทียมจะใช้เวลาประมาณ 75 – 120 วัน (ประมาณ 2.5 – 4 เดือน) ตั้งแต่เริ่มปลูกจนเก็บเกี่ยว ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่เลือกและช่วงเวลาที่ลงปลูก (Department of Agriculture)
💯 เลือกพันธุ์กระเทียมยังไง ให้ได้หัวใหญ่บึ้ม!
หัวใจสำคัญของการปลูกกระเทียมคือ “การเลือกกลีบพันธุ์ที่ดี” เพราะเราไม่ได้ปลูกจากเมล็ด แต่ปลูกจากกลีบกระเทียมโดยตรง
-
หัวต้องแก่จัด: เลือกหัวที่แก่เต็มที่ แห้งสนิท ไม่มีราขึ้น ไม่ช้ำ จะได้ต้นกล้าที่แข็งแรง
-
กลีบนอกคือกลีบทอง: เกษตรกรนิยมใช้ “กลีบนอก” เพราะขนาดใหญ่กว่ากลีบใน ให้ผลผลิตเป็นหัวที่ใหญ่กว่าและมีคุณภาพดีกว่า (ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร)
-
อย่าใช้หัวเก่าจัด: หัวที่เก็บไว้นานเกินไป อาจงอกไม่พร้อมกัน หรืองอกออกมาแล้วอ่อนแอ
-
ปลูกขายเน้นตลาด: ถ้าจะปลูกขาย ลองดูพันธุ์ที่ชาวบ้านนิยมในพื้นที่ เช่น กระเทียมไทยพันธุ์พื้นเมือง หรือ กระเทียมจีนหัวใหญ่ ที่ตลาดต้องการ แล้วค่อยเก็บหัวพันธุ์เองในรอบต่อไป จะช่วยประหยัดต้นทุน
⚒️ เตรียมดินให้เทพ หัวกระเทียมถึงจะลงสวย
กระเทียมรักดินร่วน ระบายน้ำดี ค่า pH ในดินควรอยู่ที่ 5.5 – 6.8 ถ้าดินเป็นกรดมากเกินไป (pH ต่ำ) ให้ใส่ปูนขาวปรับสภาพดินก่อนปลูกอย่างน้อย 15 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรองพื้น ช่วยให้ดินร่วน โปร่ง และมีอินทรียวัตถุสูง (opsmoac.go.th)
1. สำหรับปลูกในแปลง (แบบจริงจัง)
-
ตากดินก่อน: ขุด/ไถดินลึก 15 – 20 ซม. ตากแดดไว้ 7 – 10 วัน เพื่อกำจัดเชื้อโรคและแมลงในดิน
-
ทำแปลง: ทำแปลงกว้าง 1 – 2.5 เมตร ความยาวตามพื้นที่ เว้นร่องน้ำหรือทางเดิน 50 ซม. (Kingdom_Plant)
-
ใส่ปุ๋ยคอก: คลุกปุ๋ยคอกเก่า 2 – 4 ตัน/ไร่ หรือใส่ตามกำลัง แล้วพรวนดินให้เข้ากันดี
2. สำหรับปลูกในกระถาง/กระบะ (สายปลูกเล่น)
-
ดินต้องโปร่ง: ใช้ดินร่วนผสมปุ๋ยคอกเก่า + แกลบดำ หรือ เพอร์ไลต์ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ดินโปร่งและน้ำไม่ขัง
-
รูระบายน้ำสำคัญมาก: กระถางต้องมีรูระบายน้ำใหญ่พอสมควร ไม่อย่างนั้นหัวกระเทียมจะเน่า
👩🌾 วิธีปลูกกระเทียมในแปลง (มือใหม่ก็ทำได้ง่าย ๆ)
-
รดน้ำให้ชุ่ม: รดน้ำให้ดินในแปลงชุ่มก่อนลงมือปลูก
-
แกะกลีบ: แกะหัวกระเทียมเป็นกลีบ ๆ โดย “ไม่ต้องปอกเปลือกออก”
-
ปักกลีบ: ปักกลีบกระเทียมลงดินให้ “ส่วนที่เป็นรากลงด้านล่าง” และ “ส่วนแหลมชี้ขึ้นด้านบน” โดยปักให้ลึกประมาณ 2 ใน 3 ของความสูงกลีบ หรือราว 2 – 3 ซม. (ศูนย์วิทยบริการเพื่อส่งเสริมการเกษตร)
-
ระยะปลูก:
-
กระเทียมไทย: 10 x 10–15 ซม. ผลผลิตจะดีมาก (rakbankerd.com)
-
กระเทียมจีน: 12 x 12 ซม. (boonpuerch.com)
-
-
คลุมดิน: ใช้ฟางข้าวแห้งหรือเศษหญ้าแห้งคลุมหน้าดินเพื่อเก็บความชื้น ลดวัชพืช และช่วยควบคุมอุณหภูมิหน้าดินไม่ให้ร้อนเกินไป
💧 การให้น้ำ และเทคนิคทำให้หัวใหญ่
-
ช่วงแรก: จนถึงระยะใบงอกดี ควรให้น้ำทุก 7 – 10 วัน หรือสังเกตใบ ถ้าเริ่มเหี่ยวแสดงว่าต้องการน้ำ
-
ตลอดฤดูปลูก: โดยเฉลี่ยให้น้ำประมาณ 8 – 10 ครั้ง/ฤดู
-
เคล็ดลับก่อนเก็บเกี่ยว: ก่อนเก็บเกี่ยว 2 – 3 สัปดาห์ “ต้องงดน้ำเด็ดขาด” เพื่อให้หัวแห้งสนิท เก็บได้นาน ไม่เน่า และได้หัวกระเทียมคุณภาพดี (opsmoac.go.th)
🏡 วิธีปลูกกระเทียมในกระถาง (ปลูกกินเองบนระเบียง)
สายคอนโดหรือบ้านพื้นที่น้อย ๆ ก็ปลูกได้ แต่ต้องหาที่ที่แดดส่องถึงอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง/วัน ไม่อย่างนั้นหัวจะลีบ มีแต่ใบยาว ๆ (SGE Garden)
-
เลือกกระถาง: เลือกกระถางที่ลึก 20 ซม. ขึ้นไป มีรูระบายน้ำ
-
ใส่ดิน: ใส่ดินร่วนผสมปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมักและแกลบดำ/เพอร์ไลต์
-
ปักกลีบ: ปักกลีบลึก 2 – 3 ซม. โดยเว้นระยะห่างกัน 8 – 10 ซม.
-
ดูแล: รดน้ำให้ดินชุ่มแต่ไม่แฉะ ตั้งกระถางให้โดนแดดจัดตลอดวัน
-
บำรุงหัวใหญ่: ถ้าปลูกในกระถาง ควรเลือกกลีบใหญ่หน่อย แล้วให้ปุ๋ยละลายช้า หรือปุ๋ยสูตรเน้นโพแทสเซียม (เช่น 13-13-21 หรือ 10-10-15) ช่วงอายุ 60 และ 90 วัน จะช่วยให้หัวแน่นขึ้น (SGE Garden)
🥬 ปลูกกระเทียมกินใบ (ไม่ต้องรอหัว)
ใครใจร้อน ชอบกลิ่นหอมของใบกระเทียมอ่อน ปลูกแบบเน้นกินใบเลย! ใช้หลักการคล้ายกัน แต่ปลูกถี่ขึ้น และไม่ต้องหวังหัวใหญ่มาก
-
ระยะปลูกชิด: ปลูกได้ทั้งกระถางและแปลง ใช้ระยะปลูกชิดกว่าปกติได้เลย 5 – 8 ซม.
-
ปุ๋ยบำรุงใบ: รดน้ำสม่ำเสมอ และเน้นปุ๋ยไนโตรเจนเล็กน้อยให้ใบเขียว (เช่น ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ย 15-15-15 บาง ๆ)
-
เก็บเร็ว: ประมาณ 25 – 30 วัน ก็เริ่มตัดใบอ่อนกินได้แล้ว ถ้าไม่ถอนหัวออก จะตัดสลับกันไปเก็บกินได้หลายรอบ ใบอ่อนหั่นใส่ไข่เจียวหรือโรยข้าวต้มคือฟินมาก!
🎯 เทคนิคสุดปัง! ปลูกกระเทียมให้ “หัวใหญ่” หอมจัด
อยากได้หัวใหญ่ ๆ พ่อค้าแม่ค้าชอบ ต้องโฟกัส 4 เรื่องหลัก ๆ นี้เลย
-
พันธุ์และกลีบ: ต้องใช้ กลีบนอก ขนาดกลาง – ใหญ่ หัวพันธุ์ต้องแข็งแรง และ แก่จัด จะตอบสนองต่อการลงหัวได้ดีกว่า (Kingdom_Plant)
-
ดินและปุ๋ย: ดินต้องร่วนซุย ไม่แน่น รองพื้นด้วยปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก แล้วเสริมปุ๋ยเคมีสมดุล (เช่น 15-15-15) ช่วงแรก
-
สูตรลับตอนลงหัว: ช่วงที่เริ่มขยายหัว (ประมาณ 60 – 90 วัน) ให้เปลี่ยนไปใช้ปุ๋ยสูตรโพแทสเซียมสูง เช่น 13-13-21 หรือ 10-10-15 บาง ๆ จะช่วยให้หัวใหญ่ แน่น และหอมจัด (SGE Garden)
-
-
ระยะปลูก: ต้องควบคุมระยะปลูกให้ได้ตามที่แนะนำ (10×10 ซม. หรือ 12×12 ซม. สำหรับกระเทียมจีน) ถ้าถี่เกินไป หัวจะแย่งอาหารกัน ทำให้หัวเล็กทั้งแปลง (rakbankerd.com)
-
น้ำและแดด: ต้องมี แดดจัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง/วัน น้ำต้องพอดีไม่แฉะ และ งดน้ำก่อนเก็บเกี่ยว ให้หัวแห้งดี (SGE Garden)
🇨🇳 การปลูก “กระเทียมจีน” (หัวสวย ราคางาม)
“กระเทียมจีน” จะหัวใหญ่ กลีบโต เปลือกขาวสวย ตลาดต้องการมาก แต่จะใช้หัวพันธุ์เยอะ และต้องดูแลดีเป็นพิเศษ
-
ปริมาณหัวพันธุ์: ใช้ประมาณ 300 – 350 กก./ไร่ (มากกว่ากระเทียมไทยหลายเท่า) (boonpuerch.com)
-
ระยะปลูก: แนะนำ 12 x 12 ซม. ให้หัวมีพื้นที่ขยายตัว
-
ธาตุอาหาร: ต้องเน้นดินร่วน ปุ๋ยอินทรีย์เยอะ ๆ เพราะเขาต้องการธาตุอาหารมากกว่ากระเทียมไทย
-
ภูมิอากาศ: ถ้าปลูกในพื้นที่อากาศเย็น (เช่น เชิงเขา ภาคเหนือ) หัวจะลงดีเป็นพิเศษ
คำแนะนำสำหรับสายปลูกขาย: ลองปรึกษาเกษตรอำเภอในพื้นที่เรื่องพันธุ์ที่เหมาะกับภูมิภาค/จังหวัดของเรา และศึกษาแผนธุรกิจปลูกกระเทียม (moac.go.th) จะช่วยให้เราวางแผนต้นทุน – ผลตอบแทนได้ชัดเจนขึ้น
📅 ปลูกกระเทียมกี่วัน กี่เดือนถึงเก็บได้?
สรุปช่วงเวลาให้เข้าใจง่าย ๆ
-
กระเทียมเบา: ปลูกช่วง ต.ค. – พ.ย. จะเก็บได้ราว ม.ค. – ก.พ. อายุประมาณ 75 – 90 วัน
-
กระเทียมแห้ง: ปลูกช่วง ธ.ค. – ม.ค. จะเก็บได้ราว มี.ค. – เม.ย. อายุประมาณ 90 – 120 วัน (กระเทียมช่วงนี้เก็บได้นาน) (Department of Agriculture)
-
กระเทียมกินใบ: ถ้าเน้นใบอ่อน ประมาณ 25 – 45 วัน ก็เริ่มตัดใบกินได้แล้ว
สัญญาณเก็บเกี่ยว: สังเกตเมื่อใบล่างเริ่มแห้งประมาณ 60 – 70% และต้นเริ่มล้มลงบ้าง นั่นคือสัญญาณว่าหัวแก่จัดแล้ว ให้ขุดขึ้นมา แล้วนำไปผึ่งในที่ร่ม อากาศโปร่ง ประมาณ 7 – 10 วัน ก่อนตัดแต่งกาบใบและราก แล้วจึงเก็บใส่ตะกร้าหรือแขวนรวมเป็นพวงเพื่อรอจำหน่าย/เก็บไว้ใช้
💰 ปลูกกระเทียมขาย ทำเป็นอาชีพเสริมได้ไหม?
ถ้าคุณมีพื้นที่พอ มีแหล่งน้ำที่พร้อม การปลูกกระเทียมขายก็เป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นพืชที่ตลาดต้องการใช้ตลอดปี
แนวคิดเริ่มต้นสำหรับสายปลูกขาย:
-
คำนวณพันธุ์: พื้นที่ 1 ไร่ ใช้หัวพันธุ์กระเทียมไทยประมาณ 100 กก. (หรือกลีบ 75 – 80 กก.) ซึ่งถ้าจัดการน้ำ ปุ๋ย และวัชพืชเหมาะสม ก็ให้ผลผลิตที่ดีได้ (rakbankerd.com)
-
วางแผนตลาด: จะขายสด ขายหัวพันธุ์ ขายส่งตลาด ร้านอาหาร หรือจะเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปเป็นกระเทียมเจียว กระเทียมดอง ก็เป็นทางเลือกที่ดี
-
ขึ้นทะเบียน: ถ้าคิดจะปลูกเยอะ ควรขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมกับเกษตรอำเภอ เพื่อรับข้อมูลและการสนับสนุนจากภาครัฐในอนาคต (gdcatalog.go.th)
💡 FAQ – คำถามยอดฮิตเรื่องการปลูกกระเทียม
1. ปลูกกระเทียมช่วงไหนดีที่สุดในไทย?
แนะนำช่วง ปลายฝน – ต้นหนาว (ต.ค. – ก.พ.) เป็นช่วงที่อากาศเย็นกำลังดี ดินไม่แฉะเกินไป ทำให้กระเทียมลงหัวสวย หัวแน่น และเก็บได้นานกว่าปลูกช่วงอื่น ๆ ค่ะ
2. ปลูกกระเทียมในกระถางจะได้หัวไหม?
ได้หัวแน่นอนค่ะ! แต่ต้องมี 3 ข้อนี้: แดดถึง (อย่างน้อย 6-8 ชม./วัน), ดินโปร่ง/ไม่แฉะ และ ใช้กลีบที่ใหญ่หน่อย ถ้าทำได้หัวจะใหญ่ตามขนาดกระถางและไม่ลีบเป็นแต่ใบค่ะ
3. ใช้มูลสัตว์อะไรบำรุงกระเทียมดีที่สุด?
มูลไก่และมูลค้างคาวถือว่าดีมากค่ะ เพราะมีธาตุอาหารสูง และมีไนโตรเจนช่วยบำรุงต้น/ใบช่วงแรก ส่วนโพแทสเซียมจะช่วยให้หัวกระเทียมแน่น หอมจัด หรือถ้าหาไม่ได้ มูลวัว/มูลควายเก่า ที่ย่อยสลายแล้วก็ใช้ได้ดีสำหรับการรองพื้นให้ดินโปร่งค่ะ
การปลูกกระเทียมไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่เราใส่ใจตั้งแต่การเลือกกลีบพันธุ์ดี ๆ เตรียมดินให้ร่วนซุย มีการให้น้ำและให้ปุ๋ยอย่างเหมาะสมตามช่วงอายุ และที่สำคัญคือต้องมีแดดให้เขาเต็มที่ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีกระเทียมสด ๆ ปลอดภัยไว้ใช้ในครัวตลอดปี หรือถ้าพื้นที่เยอะ ก็สามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ได้สบาย ๆ เลยค่ะ