ทุเรียนต้นงามๆ ที่ปลูกมาเป็นปีๆ พอเข้าฤดูฝนทีไรชาวสวนหลายคนต้องเสียวสันหลังทุกที เพราะ “โรครากเน่า” จากเชื้อรา Phytophthora palmivora พร้อมบุก! ต้นไหนติดโรคแล้ว ใบจะเริ่มซีดเหลือง ทิ้งท้ายด้วยกิ่งเหี่ยวร่วง ผลดิบหล่น เสียทั้งเงินทั้งเวลา บทความนี้ขอเมาท์แบบกันเองถึงสัญญาณเตือน วิธีป้องกัน และ “สูตรชีวภัณฑ์” ฉบับทำเองได้ ที่ช่วยเซฟต้นทุเรียนให้รอดหน้าฝน
1. ทำไมช่วงฝนชุกถึงเสี่ยงโรครากเน่าสุดๆ
-
น้ำขังดินชื้นนาน ดินเละจนไม่มีออกซิเจน รากขาดอากาศ แถมเชื้อราสายพันธุ์ร้ายโตไว
-
อุณหภูมิ 25-30 °C อากาศอุ่นชื้นคือสวรรค์ของ Phytophthora
-
ชั้นดินเหนียว ระบายน้ำช้า ยิ่งสวนบนพื้นที่ราบต่ำยิ่งหนัก
-
เศษใบ-กิ่งสุมโคนต้น ซากพืชหมักหมมเป็นแหล่งแพร่เชื้อ
ทิปด่วน: หลังฝนหยุดอย่าเพิ่งชะล่าใจ ตรวจโคนต้นเสมอ หากกลิ่นเหม็นเปรี้ยวหรือเปลือกรากสีดำช้ำ—เสี่ยงแล้ว!
2. สัญญาณเตือน “โรครากเน่าทุเรียน”
ระยะ | อาการที่เห็นชัด | วิธีเช็กเร็ว |
---|---|---|
เริ่มต้น | ใบเขียวจืด ซีด ไม่สด | บิดใบดู เส้นใบนูนไม่ชัด |
กลาง | ใบเหลืองร่วง กิ่งเหี่ยว | ใช้มีดขูดเปลือกรากสีคล้ำดำ |
รุนแรง | ผลอ่อนหล่น ต่างระดับ | ขุดดูรากในดิน เละกลิ่นเปรี้ยว |
ถ้าเริ่มเจอใบซีด+ยอดหยุดโต เกิน 30 % ของทั้งต้น ให้ถือว่าเข้าระยะกลางแล้ว ต้องรีบรักษาก่อนลามทั้งแปลง
3. กลยุทธ์ป้องกันครบวงจร
-
ยกโคก-ขุดร่องระบายน้ำ ปรับคันรอบต้นสูง 30-50 ซม. น้ำฝนจะไหลออกเร็ว
-
คลุมโคนต้นด้วยแกลบดำหรือกาบมะพร้าวสับ ช่วยอุ้มน้ำแบบพอดี ลดเด้งน้ำกระเซ็นที่พาเชื้อรา
-
ตัดกิ่งล่าง-เปิดทรงพุ่ม แดดส่อง-ลมผ่าน รากไม่อบอ้าว
-
งดใส่ปุ๋ยเคมีหนักช่วงฝนแรก ลดช็อกไนโตรเจนที่ทำให้ต้นอ่อนแอ
เคล็ดลับเสริม: ผสม “โดโลไมต์ 200 กก./ไร่” ปรับ pH ดินไม่ให้เป็นกรด เชื้อ Phytophthora โตยากขึ้น
4. สูตรชีวภัณฑ์กำจัดเชื้อรา ทำเองใช้เอง
วัตถุดิบ | สัดส่วน | หน้าที่ |
---|---|---|
เชื้อ Trichoderma harzianum แห้ง | 1 กก. | คู่ปรับสำคัญของ Phytophthora |
กากน้ำตาล | 1 ลิตร | อาหารจุลินทรีย์ |
น้ำสะอาด | 100 ลิตร | ตัวทำละลาย |
รำละเอียด | 5 กก. | เพิ่มแหล่งคาร์บอน |
วิธีหมัก
-
ละลายกากน้ำตาลกับน้ำ 10 ลิตร คนให้เข้ากัน
-
เทเชื้อ Trichoderma ลงถังใบใหญ่ เติมรำละเอียดตาม
-
รินน้ำผสมน้ำตาลช้าๆ คลุกให้ทั่วจนชื้น 60 % (บีบแล้วเป็นก้อนไม่มีน้ำไหล)
-
ปิดฝาทึบ วางในร่ม 5-7 วัน คนวันเว้นวัน กันร้อนเกิน 35 °C
-
ครบกำหนด เติมน้ำจนครบ 100 ลิตร กรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่ขวดพักไว้
อัตราใช้: 20 ลิตร/ต้น ราดรอบโคนหลังฝนหยุดทุก 15 วัน หรือฉีดพ่นโคนและใบช่วงเย็น
เพิ่มพลัง: ผสม จุลินทรีย์ Bacillus subtilis 200 ซีซี ลงไปก่อนใช้ จะได้ฤทธิ์สองเด้ง
5. แผนฉุกเฉินเมื่อพบการระบาด
-
ตัดรากเน่าทิ้ง ใช้เสียมขุดรากดำออก เผานอกแปลง
-
พ่นสารทองแดงไฮดรอกไซด์ 77 % 200 กรัม/น้ำ 100 ลิตร รอบทรงพุ่ม (เฉพาะต้นป่วยหนัก)
-
งดให้น้ำ 3-5 วัน ปล่อยดินแห้ง ก่อนไล่น้ำเข้าตามปกติ
-
เติมชีวภัณฑ์ทุกสัปดาห์ ฟื้นสมดุลจุลินทรีย์ดิน ลดการกลับมาของเชื้อ
6. ดูแลต่อเนื่องหลังฝน
-
เสริมปุ๋ยอินทรีย์หมักเอง (ขี้ไก่-ขี้วัว+EM) รอบทรงพุ่ม 5 กก./ต้น
-
พ่นแคลเซียมโบรอนทางใบ เดือนละครั้ง เพิ่มความเหนียวของผนังเซลล์
-
วัดค่า EC ดิน ถ้าสูงเกิน 2 mS/cm ให้ปล่อยน้ำรอบสวนเพื่อละลายเกลือส่วนเกิน
7. บทสรุปชิลๆ
“โรครากเน่า” เป็นคู่ปรับตัวฉกาจของคนปลูกทุเรียนหน้าฝนก็จริง แต่ถ้าเราเตรียมดินให้โปร่ง ระบายน้ำดี เสริมชีวภัณฑ์สู้เชื้อรา และหมั่นสังเกตอาการตั้งแต่ใบซีด กินข้าวอยู่ก็หันไปมองสวนสักหน่อย คุณจะเซฟทุเรียนสุดรักให้ผ่านพ้นฝนชุกได้สบาย อย่าลืมแชร์สูตรหมัก Trichoderma กับเพื่อนชาวสวนข้างบ้าน เพราะสวนแข็งแรงทั้งชุมชนคือกำไรระยะยาว!