มะยงชิด และ มะปรางหวาน นั้นอยู่ในวงศ์เดียวกัน คือ วงศ์เงาะ (Anacardiaceae) แต่อยู่ในสกุลที่แตกต่างกัน คือ มะปรางอยู่ในสกุล Bouea ส่วนมะยงชิดอยู่ในสกุล Mangifera โดยมะยงชิดนั้นได้รับการพัฒนามาจากมะปรางสายพันธุ์หนึ่งที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว

ความแตกต่างระหว่างมะยงชิด และ มะปรางหวาน

ความแตกต่างระหว่างมะยงชิด และ มะปรางหวาน
  1. ต้นกำเนิด:
    • มะยงชิด: มีต้นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, และบรูไน.
    • มะปรางหวาน: มีต้นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเวียดนาม แต่มีการปลูกทั่วโลกในสถานที่ที่มีอากาศร้อน.
  2. ลักษณะของผล:
    • มะยงชิด: มีขนาดเล็กถึงกลาง มีเปลือกหนาและสีม่วงเข้ม ภายในมีเนื้อสีขาวและจัดอยู่เป็นหลายชั้น มะยงชิดมีรสชาติหวานและเปรี้ยวอ่อน นับเป็นผลไม้ที่อร่อยและหรูหรา.
    • มะปรางหวาน: มีขนาดใหญ่กว่ามะยงชิด มีเปลือกที่บางและสีส้มสด ภายในมีเนื้อสีส้มหวานเปรี้ยว มะปรางหวานมักถูกบรรจุในช่องอาหารและนำมาทำน้ำส้มเพื่อดื่มหรือใช้ในอาหาร.
  3. นิยมในอาหาร:
    • มะยงชิด: มะยงชิดมักถูกบริโภคสดๆ หรือนำมาทำเป็นน้ำมะยงชิด นอกจากนี้ยังมีการใช้มะยงชิดในอาหารและเครื่องปรุงรสในหลายอาหารในทวีปเอเชีย.
    • มะปรางหวาน: มะปรางหวานมักถูกบริโภคเป็นผลไม้สดหรือน้ำส้มมะปรางหวาน นอกจากนี้ยังมีการใช้มะปรางหวานในอาหารและเครื่องปรุงรสในอาหารต่างๆ.

สายพันธุ์มะปรางและมะยงชิด

มะปรางและมะยงชิดเป็นผลไม้ที่มีหลายสายพันธุ์หรือความหลากหลายทางพันธุกรรม เพื่อความชัดเจน นี่คือบางสายพันธุ์ที่รู้จักในทั้งสองผลไม้:

มะปรางหวาน

มะปราง (Citrus × sinensis):

  1. สายพันธุ์นาวา (Navel): มะปรางนาวาเป็นสายพันธุ์ที่มีโคนผลที่คล้ายธำมรงค์หรือรูปร่างที่เหมือนสะดือมนุษย์ เนื้อมะปรางนาวาหวานและน้ำในมะปรางมาก.
  2. สายพันธุ์แวเลนเชีย (Valencia): มะปรางแวเลนเชียมีลักษณะคล้ายมะปรางนาวาแต่มีรสชาติหวานกว่าและเหมาะที่นำมาทำน้ำส้ม.
มะยงชิด

มะยงชิด (Garcinia mangostana):

  1. สายพันธุ์เบสท์ (Best): มะยงชิดเบสท์มีขนาดใหญ่และเปลือกหนา มีเนื้อมะยงชิดสีขาวและเปรี้ยวหวาน.
  2. สายพันธุ์กัฟฟู (Guffu): มะยงชิดกัฟฟูมีขนาดเล็กกว่าและเปลือกบางกว่าสายพันธุ์เบสท์ มีรสชาติหวานและเปรี้ยว.
  3. สายพันธุ์แอลบิโน (Albino): มะยงชิดแอลบิโนมีเนื้อสีขาวและเปลือกบาง มีรสชาติหวานและเปรี้ยว.

การปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษามะปรางและมะยงชิด

การปลูกและดูแลรักษามะปรางและมะยงชิดต้องพิจารณาและดูแลเรื่องต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม, การให้น้ำ, การดูแลต้นไม้, การป้องกันโรคและแมลง ดังนี้:

การปลูกมะปรางและมะยงชิด:

  1. เลือกสถานที่: ให้เลือกสถานที่ที่มีแสงแดดเพียงพอและมีระบบระบายน้ำดี ทั้งสองชนิดของผลไม้นี้ต้องการแสงแดดเต็มร้อย.
  2. เตรียมดิน: ปรับปรุงดินให้เหมาะสมโดยใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเก่าลงในหลุมปลูก.
  3. การเพาะเมล็ดหรือต้นกล้า: สามารถเริ่มต้นด้วยต้นกล้าหรือต้นเล็กที่ซื้อมา หรือเพาะเมล็ดโดยใส่เมล็ดลงในกระถางหรือถาดเพาะเมล็ด.
  4. ระยะห่างระหว่างต้น: ให้ปลูกต้นที่ระยะห่างเหมาะสม ประมาณ 6-8 ฟุตระหว่างต้นเพื่อให้มีพื้นที่ในการขยายลำต้น.

การดูแลรักษามะปรางและมะยงชิด:

  1. การให้น้ำ: ให้น้ำให้มะปรางและมะยงชิดให้ชุ่มตลอดปี น้ำนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างผลไม้ที่มีคุณภาพ.
  2. การให้ปุ๋ย: ให้ปุ๋ยสม่ำเสมอ เริ่มต้นด้วยปุ๋ยสูตรเสมอ 14-14-14 หรือ 15-15-15 และให้ปุ๋ยเสริมทางดินและทางใบตามความจำเป็นตลอดฤดูกาล.
  3. การตัดแต่งกิ่ง: ตัดแต่งกิ่งที่เสียหายหรือโคนให้ต้นสะอาด และส่วนที่เหลือให้มีระยะห่างเพียงพอ.
  4. การป้องกันโรคและแมลง: ตรวจสอบต้นไม้เป็นระยะๆ เพื่อตระหนักถึงการระบาดของโรคหรือแมลง และป้องกันหรือรักษาตามความจำเป็น สารเคมีหรือวิธีการอินทรีย์เป็นตัวเลือกที่มีอยู่.
  5. การเก็บเกี่ยว: เก็บผลไม้เมื่อสุกเหมาะ การเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมจะช่วยให้ผลไม้มีรสชาติและคุณภาพดี.
  6. การหมักปุ๋ย: การใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อบำรุงดินและต้นไม้เป็นระยะๆ จะช่วยให้มะปรางและมะยงชิดเติบโตแข็งแรง.
  7. การตรวจสอบพืชที่ปลูก: ตรวจสอบต้นไม้ทุกสัปดาห์เพื่อตระหนักถึงปัญหาและแก้ไขตามความจำเป็น.

ประโยชน์ของมะปรางและมะยงชิด

มะปรางและมะยงชิดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์สำหรับสุขภาพมากมาย นี่คือบางประโยชน์ของมะปรางและมะยงชิด:

มะปราง:

  1. แหล่งวิตามิน C: มะปรางมีปริมาณวิตามิน C สูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเช่นหวัดและไข้หวัดใหญ่.
  2. สารต้านอนุมูลอิส: มะปรางมีสารแอนทิออกซิแดนท์ที่ช่วยลดการทำลายของอนุมูลอิสในร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและมะเร็งได้.
  3. ใช้ในอาหารและเครื่องปรุงรส: มะปรางมักนำมาใช้ในอาหารเป็นผลไม้สดหรือน้ำมะปราง และใช้ในเครื่องปรุงรสในอาหารได้.
  4. สารสกัดจากเปลือกมะปราง: เปลือกมะปรางมีสารสกัดที่อาจมีประโยชน์ในการรักษาโรคและการบำบัดในการวิจัยเร็วๆ นี้.

มะยงชิด:

  1. แหล่งสารต้านอนุมูลอิส: มะยงชิดมีสารต้านอนุมูลอิสที่ช่วยป้องกันร่างกายจากความเสี่ยงต่อโรคร้ายต่างๆ และช่วยลดอาการอักเสบ.
  2. ช่วยในการลดน้ำหนัก: มะยงชิดมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ซึ่งอาจช่วยในการลดน้ำหนัก.
  3. แหล่งวิตามิน C: เช่นเดียวกับมะปราง มะยงชิดก็เป็นแหล่งวิตามิน C ที่มีปริมาณสูง.
  4. ช่วยในการยับยั้งการเกิดมะเร็ง: สารสกัดจากมะยงชิดอาจช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในการวิจัย.
  5. ใช้ในอาหารและเครื่องปรุงรส: มะยงชิดมักนำมาใช้ในอาหารสด น้ำมะยงชิด หรือเครื่องปรุงรสในอาหาร.

หมายเหตุ: ควรบริโภคมะปรางและมะยงชิดในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อรักษาสุขภาพและไม่ควรบริโภคมากเกินไป เนื่องจากสารหนักแน่นในผลไม้นี้อาจมีผลกระทบต่อระบบทางเดินอาหารในบางกรณี และควรปฏิบัติความสนใจในการบริโภคหากมีโรคร้ายหรือภาวะสุขภาพเฉพาะบุคคล.