ไข่ไก่แบบ Free-Range มาแรงสุด ๆ ในยุคที่ผู้บริโภคห่วงใยสวัสดิภาพสัตว์ “เล้าเปิด + ไก่เดินเล่นได้” กลายเป็นจุดขายที่ทำให้ไข่หนึ่งฟองราคาโดดจาก 3 บาท (ระบบกรง) เป็น 4-6 บาทสบาย ๆ เลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าคิดจะลุยตลาดนี้ ต้องวางแผนตั้งแต่ ต้นทุน / ผลตอบแทน / มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) ไม่งั้นกำไรอาจหายไปกับค่าอาหารและโรคระบาดได้ง่าย
1. วางแผนต้นทุนเบื้องต้น
รายการ | ราคา/หน่วย | จำนวน | ต้นทุนรวม | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
ลูกไก่พันธุ์ไข่ (อายุ 1 วัน) | 28 บ./ตัว | 1,000 ตัว | 28,000 บ. | ใช้พันธุ์ไฮบริด เช่น Hy-Line Brown |
โรงเรือนกึ่งเปิด + ลานวิ่ง | 700 บ./ตร.ม. | 300 ตร.ม. | 210,000 บ. | เล้า 200 ตร.ม. ลานวิ่ง 100 ตร.ม. |
ระบบให้น้ำ-อาหารอัตโนมัติ | เหมา 45,000 บ. | 1 ชุด | 45,000 บ. | ประหยัดแรงงานระยะยาว |
อาหารไก่เลี้ยงเช้า-เย็น (4 กก./ตัว/เดือน) | 14 บ./กก. | 4,000 กก./เดือน | 56,000 บ./เดือน | หลังเริ่มออกไข่ |
วัคซีน + ยาถ่ายพยาธิ | 7 บ./ตัว/รอบ | 1,000 ตัว | 7,000 บ. | ทำทุก 4-6 เดือน |
ค่าแรงงาน (2 คน) | 12,000 บ./คน | 2 คน | 24,000 บ./เดือน | เฉลี่ย 400 ตัว/คน |
สรุปต้นทุนตั้งต้น (CapEx) ≈ 283,000 บ.
ต้นทุนดำเนินการ (OpEx) หลังเริ่มไข่ ≈ 80,000 บ./เดือน (อาหาร 70 %, ค่าแรง 30 %)
2. คำนวณผลตอบแทนจริง
-
ไก่ไข่ Free-Range เริ่มออกไข่เมื่ออายุ 18-20 สัปดาห์
-
อัตราการให้ไข่เฉลี่ย 85 % (ไก่ 100 ตัว → ไข่ 85 ฟอง/วัน)
-
ผลผลิตต่อปี = 1,000 ตัว × 85 % × 320 วัน ≈ 272,000 ฟอง/ปี
-
ราคาขายเฉลี่ยหน้าฟาร์ม 4.50 บ./ฟอง (ถ้าตีตรา “Cage-Free” และมีใบรับรอง GAP จะดันขึ้นได้ 5-6 บ.)
รายได้/เดือน = 272,000 ฟอง ÷ 12 ≈ 22,666 ฟอง × 4.5 บ. ≈ 102,000 บ.
กำไรขั้นต้น/เดือน ≈ รายได้ 102,000 บ. – OpEx 80,000 บ. = 22,000 บ.
คืนทุน = CapEx 283,000 บ. ÷ กำไร 22,000 บ./เดือน ≈ 13 เดือน (ปีแรกอาจช้ากว่านี้เพราะไก่ยังไม่ให้ไข่เต็มที่)
3. ทำอย่างไรให้ต้นทุนต่ำ กำไรยาว
-
ลดสัดส่วนอาหารสำเร็จรูป 30 % – เสริมด้วยพืชโปรตีน (ถั่วเขียว, จอกน้ำ) + อาหารเหลือจากครัวเรือน
-
ปลูกหญ้าเนเปียร์ในลานวิ่ง – ให้ไก่จิกทั้งวัน ลดความเครียดกับการจิกกันเอง
-
ติดตั้งแผงโซลาร์ – ลดค่าไฟปั๊มน้ำ + พัดลม
-
ทำปุ๋ยจากมูลไก่ – Compost 3 เดือนแล้วขาย 4 บ./กก. เพิ่มรายได้เสริม 5-8 พัน/เดือน
4. มาตรฐาน GAP สำหรับฟาร์ม Free-Range
-
โครงสร้างเล้า ความหนาแน่นไม่เกิน 6 ตัว/ตร.ม. ในบ้าน + มีคอนนอน 15 ซม./ตัว
-
พื้นลานวิ่ง อย่างต่ำ 4 ตร.ม./ตัว พร้อมร่มเงาและทรายคลุกเถ้าไม้ไว้ให้ไก่ขลุกฝุ่น
-
น้ำสะอาด ตรวจ pH 6.5-7.5 ปลอดเชื้อ E. coli
-
บันทึกการใช้ยา-วัคซีน พร้อมเลข Lot ทุกครั้ง GAP จะสุ่มตรวจย้อนหลังได้ 2 ปี
-
จัดการซากไก่ เผาหรือฝังลึก ≥ 1 ม. ห่างแหล่งน้ำ 30 ม.
Tip! ถ้าเลี้ยงครบ 8 เดือนแล้วยังไม่ยื่นขอ GAP จะเสียโอกาสทั้งตลาดค้าปลีกและการต่อยอดทำแบรนด์เองบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพราะห้าง/ซูเปอร์ฯ ส่วนใหญ่ขอใบรับรองก่อนรับสินค้าเข้าเชลฟ์
5. กลยุทธ์การตลาดไข่ Free-Range
-
Storytelling – ถ่ายคลิป “เช้า-เย็นเปิดประตูให้ไก่เดิน” + ใส่ชื่อแม่ไก่ฮา ๆ
-
กล่องรีไซเคิล – ใช้กล่องเยื่อกระดาษพิมพ์ลายไม้ + ตราฟาร์ม เพิ่มภาพลักษณ์รักษ์โลก
-
ไข่เบอร์เดียว – คัดเฉพาะ 55-60 กรัม เพื่อให้คนจดจำราคา (4.5 บ.)
-
Subscription Model – ส่งไข่สดทุก 7 วัน/14 วัน เก็บค่าสมาชิกรายเดือนล่วงหน้า ช่วยเรื่อง Cash-flow
6. ความเสี่ยงที่ต้องบริหาร
-
โรค Newcastle & ไข้หวัดนก – กักโรค 21 วันเมื่อรับลูกไก่ใหม่, ฉีดวัคซีนทุก 3 เดือน
-
สัตว์นักล่า – งู, สุนัขจร ต้องขึงตาข่ายลานวิ่ง + เปิดไฟโซลาร์เซลล์ตอนกลางคืน
-
ตลาดไข่ล้น – ทำไข่เค็ม, ไข่แช่เย็น 45 วัน, หรือส่งโรงงานทำมายองเนสเพื่อระบายของ
7. สรุปแนวทางทำให้คุ้มทุนจริง
-
ลงทุนโครงสร้างครั้งเดียว แต่เลือกวัสดุทน (เสาเหล็กชุบกัลวาไนซ์ + ตาข่าย HDPE)
-
รักษาอัตราการให้ไข่ ≥ 85 % ด้วยอาหารครบโปรตีน 18 % + วิตามินในน้ำสัปดาห์ละ 2 วัน
-
ขอใบรับรอง GAP และถ่ายรูป QR Code ติดกล่องให้ผู้บริโภคสแกนได้
-
ต่อยอดมูลไก่เป็นปุ๋ยคอกอัดเม็ด – สร้าง Value เพิ่มจากของเสีย
-
ทำบัญชีต้นทุนรายเดือน แยก Food cost / Labor / Utilities ชัด ๆ เพื่อเช็กจุดรั่ว
ทำครบ 5 ข้อ บวกกับการตลาดเล่าเรื่องฟาร์ม กำไรต่อปีทะลุ 250,000 บ. ได้ไม่ยาก แถมช่วยให้คนไทยกินไข่คุณภาพดี ไก่มีความสุข เจ้าของฟาร์มก็ไม่เครียดเรื่องเงินทุนหมุนเวียนอีกต่อไป!