ชาวสวนยุค 2025 ไม่ได้ขายแค่ผลไม้—ขาย “อากาศดี” ก็ได้เงิน! คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) คือสิทธิ์ขายปริมาณ CO₂ ที่สวนของเราช่วยกักเก็บหรือชดเชยให้กับโรงงาน-สายการบิน-บริษัทยักษ์ที่อยากลดรอยเท้าคาร์บอน (Carbon Footprint) ให้ถึงเป้า Net-Zero ก่อนปี 2050 ตามกระแสโลก 🌍

1) คาร์บอนเครดิตคืออะไร?

  • 1 เครดิต = 1 ตัน CO₂e ที่ลดหรือกักเก็บได้

  • ไทยใช้ระบบสมัครใจ “T-VER” ของ องค์กรบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO) เป็นมาตรฐานกลาง

  • ราคา T-VER ล่าสุดพุ่งถึง 510 บาท/ตันสำหรับโครงการป่าไม้-สวนผลไม้ เส้นเฉลี่ย 350-450 บาท/ตันช่วง มิ.ย. 68–มิ.ย. 69

2) ทำไมสวนผลไม้ได้เปรียบ?

  • ต้นไม้ยืนต้นอายุยาว ดักคาร์บอนทั้งเหนือ-ใต้ดิน

  • ไม่ต้องปลูกใหม่หมด แค่จัดการข้อมูลอายุต้น ความหนาแน่น และดูแลตามคู่มือ T-VER ก็เคลมได้

  • ผลไม้พรีเมียมส่งออกมีแต้ม ESG เพิ่ม คะแนนตลาดต่างประเทศสูงขึ้น

3) วิธีคำนวณคาร์บอนเครดิต/ไร่ (สูตรย่อ)

ปริมาณ CO₂e ต่อไร่/ปี = [(ค่า Biomass * CF) – Emission]

  • Biomass: ค่ามวลชีวภาพจากเส้นผ่านศูนย์กลางอกไม้ (DBH) ของแต่ละพันธุ์ ตามตาราง T-VER-S-TOOL-01-01 เวอร์ชัน 2 (มีไฟล์ Excel คำนวณอัตโนมัติ)

  • CF (Carbon Fraction): คงที่ 0.47

  • Emission: ก๊าซเรือนกระจกจากน้ำมัน ปุ๋ย ฯลฯ (ตัดออกหรือใช้ค่าเฉลี่ย)

ตัวอย่างสวนทุเรียน 10 ไร่

  • DBH เฉลี่ย 25 ซม. ได้ Biomass ≈ 35 ตัน/ไร่

  • CO₂e กักเก็บ ≈ 6 ตัน/ไร่/ปี

  • ขายเครดิต 6 ตัน × 400 บ. = 2,400 บ./ไร่/ปี
    สวน 10 ไร่ รับ 24,000 บ./ปี เพิ่มจากรายได้ผลผลิตแบบไม่ต้องลงทุนเพิ่ม!

4) ขั้นตอนลงทะเบียน T-VER ให้ผ่านเร็ว

  1. ศึกษาคู่มือ / เครื่องมือ – ดาวน์โหลดฟรีจากเว็บ TGO

  2. จดพิกัดแปลง + วัด DBH ทุกต้น (ใช้แอปมือถือได้)

  3. ทำ PDD (Project Design Document) – เขียนสั้น ๆ รายละเอียดแปลง, วิธีเก็บข้อมูล, แผน MRV

  4. ยื่นขอรับรองกับ TGO – ค่าธรรมเนียมเฉลี่ย 10,000-30,000 บ. ต่อโครงการย่อย

  5. ตรวจประเมินภายนอก (Validation & Verification) – ผู้ตรวจรับรองเยี่ยมแปลงทุก 2-3 ปี

  6. ออกใบรับ T-VER– ได้ Series Number พร้อมขึ้นทะเบียนตลาด

 

5) จะขายเครดิตที่ไหน?

  • ตลาดกลางคาร์บอน (TGO Carbon Market Club) – ซื้อขายรายสัปดาห์ผ่านระบบออนไลน์ มีบอร์ดราคาอัปเดตทุกวันศุกร์

  • OTC กับเอกชน – ทำสัญญาตรงกับโรงงาน/ห้างที่ต้องการเครดิตยาว ๆ ล็อตใหญ่

  • ตลาดต่างประเทศ – หากใช้มาตรฐาน Gold Standard หรือ Verra เพิ่ม (เสียค่า MRV สูงกว่า) รายได้ดีกว่า แต่ต้องพิสูจน์ “Additionality” เข้ม

6) เคล็ดลับเพิ่มเครดิตให้สวน

  • ปลูกไม้ผสมผสาน (Agro-forestry) เช่น ทุเรียน + ไม้เศรษฐกิจเสริม จะได้ค่ากักเก็บสูงสุด

  • ลดใช้ปุ๋ยไนโตรเจน เปลี่ยนเป็นชีวภัณฑ์ ลด Emission ด้าน N₂O

  • ติดตั้งโซลาร์ปั๊มน้ำ ใส่ในบันทึก GHG จะหักลบ Emission ได้อีก

7) ความเสี่ยง & วิธีป้องกัน

  • Fire risk เผาเศษกิ่ง = ปล่อย CO₂ กลับสู่ชั้นบรรยากาศ → ทำประกันภัย + ใช้ Biochar

  • ราคาเหวี่ยงตามตลาดโลก แต่แนวโน้มขาขึ้นเพราะ EU-CBAM เริ่มเก็บภาษีคาร์บอน 2026

  • ต้นทุน MRV สูง จับกลุ่มชาวสวนรวมโครงการ (Programmatic) ลดค่าตรวจ

8) อนาคตตลาดคาร์บอนไทย 5 ปีข้างหน้า

  • รัฐผลักดันแผน LT-LEDS ลด GHG 40% ภายใน 2030

  • TGO เตรียมเปิด “Exchange” เต็มรูปแบบ + ฟินเทค Blockchain ติดตามเครดิตแบบเรียลไทม์

  • คาดอัตราเติบโต CAGR 15-20% และราคาทะลุ 600 บาท/ตัน ภายใน 2028

สรุปสั้น ๆ
คาร์บอนเครดิตไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ต้นไม้ทุกต้นในสวนคือ “ตู้เซฟ” เก็บ CO₂ ดิบ ๆ แปลงเป็นเงินสดได้ทุกปี แค่รู้วิธีคำนวณ-จดทะเบียน-ขายเป็น ก็ปลดล็อกรายได้ใหม่แบบไม่ต้องปลูกเพิ่ม พร้อมช่วยโลกให้เย็นขึ้นด้วย 😉🌱🌏

คาร์บอนเครดิตคือช่องทางใหม่ที่ชาวสวนไทยควรจับตา เป็นรายได้เสริมที่ได้ทั้งเงินและภาพลักษณ์สวนสีเขียว พร้อมก้าวสู่ตลาดโลกที่ยึดหลัก ESG อย่างแท้จริง