“ต้นกระเป๋าตังค์” ที่คนไทยเรียกติดปาก หรือชื่อทางการที่รู้จักกันในนาม “ว่านกาบหอย” (Rhoeo discolor หรือ Tradescantia spathacea) เนี่ย ไม่ใช่แค่ไม้ประดับที่หน้าตาเก๋ไก๋มีใบสีม่วงอมเขียวสุดจึ้งเท่านั้นนะ แต่เป็นเบอร์ต้นๆ ของ “ไม้มงคลเรียกทรัพย์” ที่สายมูห้ามพลาดเลย! ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าปลูกแล้วเหมือนมีกระเป๋าตังค์หนาๆ ตลอดเวลา ฟังแล้วก็รู้สึกปังตั้งแต่ยังไม่ปลูก แค่มีติดบ้านไว้ก็อุ่นใจเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้ว
ต้นนี้เป็นพืชล้มลุกในวงศ์ Tradescantia ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับพวกเศรษฐีเรือนใน มีถิ่นกำเนิดแถบเม็กซิโกและอเมริกากลาง ว่านกาบหอยเป็นพืชที่ทนทานและปรับตัวเก่งสุดๆ เข้ามาบ้านเรานานมากจนกลายเป็นไม้ที่คุ้นเคย แถมยังปรับตัวเก่งสุดๆ จะวางในห้องแอร์ หรือตรงระเบียงแดดรำไรก็ยังรอดได้ชิลๆ นี่แหละที่ทำให้คนอยู่คอนโด มีพื้นที่จำกัด หรือมือใหม่หัดปลูกก็ไม่ต้องกลัวเลย
ว่านกาบหอย/ต้นกระเป๋าตังค์ คืออะไร? ทำไมใบถึงสวยจึ้งขนาดนี้?
จุดเด่นของต้นนี้หนีไม่พ้น “ใบ” ของมันเลยล่ะ ใบของเขาจะเป็นทรงเรียวยาวคล้ายรูปดาบ และมีลักษณะเป็นกาบหุ้มซ้อนทับกันแน่นๆ
-
ด้านบนใบ: สีเขียวเข้ม หรือเขียวอมเทา ดูเป็นมิติ
-
ด้านล่างใบ: สีม่วงเข้มจัดๆ หรือม่วงอมแดง ทำให้เวลาปลูกเป็นกอจะดูมีสีสันและโดดเด่นมาก โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีใบสีม่วงชัดๆ อย่างพันธุ์ ‘Tricolor’ หรือ ‘Compacta’ จะยิ่งดูดทรัพย์สุดๆ
-
ดอก: ดอกเล็กๆ สีขาว มักจะซ่อนอยู่ภายในกาบใบที่ดูคล้ายเปลือกหอยแครง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ “กาบหอย”
ด้วยความที่เขาเป็นไม้พุ่มเตี้ย แตกกอแน่น ไม่เกะกะสายตา คนส่วนใหญ่จึงนิยมนำมาปลูกลงกระถางเล็กๆ วางบนโต๊ะทำงาน, เคาน์เตอร์ร้านค้า, หรือตั้งในมุมบ้านที่รับแสงรำไรได้สบายๆ เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการความเขียวแบบไม่วุ่นวายสุดๆ
ความหมายมงคลที่โคตรเฮง! ปลูกแล้วกระเป๋าตังค์จะฟูจริงดิ?
ชื่อ “ต้นกระเป๋าตังค์” ก็สื่อความหมายอยู่แล้วแบบตรงๆ ว่าเกี่ยวกับการเงิน แต่ในเชิงความเชื่อของคนไทยและสายมูนั้น ว่านกาบหอยถือเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและการเก็บรักษาทรัพย์ที่ดีเยี่ยม:
-
เรียกเงินเข้า เก็บเงินอยู่: ใบที่ซ้อนทับกันแน่นๆ เปรียบเสมือนกระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยเงินทอง ไม่ว่าจะหามาได้เท่าไหร่ก็จะเก็บอยู่ ไม่มีรั่วไหล คนที่เก็บเงินไม่เก่งนี่ต้องหามาปลูกด่วนๆ เลยนะ
-
โชคลาภไหลมาเทมา: ด้วยลักษณะที่แตกหน่อแตกกอได้เรื่อยๆ เชื่อกันว่าหมายถึงการมีโอกาสทางการเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งโชคลาภจากการค้าขาย งานเสริม หรือแม้แต่โชคฟลุคๆ
-
เสริมพลังความขยัน: การที่เราตั้งใจดูแลต้นไม้ให้สวยงาม ก็เหมือนเป็นเครื่องเตือนใจให้เราดูแลการเงินของตัวเองให้ดี มีสมาธิในการทำงาน และเป็นสัญญาณของความเจริญก้าวหน้า
เคล็ดลับสายมูเพิ่มเติม: สำหรับสายค้าขายหรือคนที่ทำธุรกิจส่วนตัว ลองหาเหรียญบาทใหม่ๆ หรือเหรียญมงคล (เช่น เหรียญจีนรูสี่เหลี่ยม) มาฝังไว้ใต้ดินในกระถางตอนปลูกใหม่ๆ หรือวางไว้บนดินบริเวณโคนต้น เพื่อเป็นการ “บูชาทรัพย์” และกระตุ้นพลังงานการเงินให้ปังยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่า!
ปลูกตรงไหนให้เฮง? ตำแหน่งเสริมฮวงจุ้ยในบ้าน/ที่ทำงาน
การวาง ต้นกระเป๋าตังค์ นั้นถือว่าไม่จู้จี้มาก แต่ถ้าอยากให้เสริมความเฮงเรื่องเงินทองแบบจัดเต็มตามหลักฮวงจุ้ย เราควรวางในตำแหน่งที่เสริมธาตุไม้และพลังงานด้านการเงิน:
-
ทิศตะวันออกและทิศตะวันออกเฉียงใต้: ตามหลักฮวงจุ้ยจีน ทิศเหล่านี้เป็นของธาตุไม้ ซึ่งส่งเสริมเรื่องการเจริญเติบโต ความก้าวหน้า และการเริ่มต้นที่ดี การวางต้นไม้ในทิศนี้จะช่วยให้งานลื่นไหล การเงินเติบโต
-
ใกล้ประตูบ้าน/มุมรับแขก: เน้นการวางบริเวณที่ “รับพลังงานเข้าบ้าน” เพื่อสื่อถึงการรับทรัพย์ รับโอกาสดีๆ และการเงินที่ไหลเข้าไม่ขาดสาย
-
โต๊ะแคชเชียร์/มุมบัญชี: สำหรับร้านค้า หรือพื้นที่ทำงานที่เกี่ยวกับเงินโดยตรง (เช่น โต๊ะทำบัญชี โต๊ะคิดเงิน) ให้วางกระถางเล็กๆ ไว้ใกล้ๆ เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าและเงินเข้าร้าน
-
ข้อควรเลี่ยง: หลีกเลี่ยงการวางในห้องน้ำ (พลังงานหยินสูง ไม่เหมาะกับการวางไม้เรียกทรัพย์) และใต้คาน (เชื่อว่าเป็นการกดทับโชคลาภและความรุ่งเรือง)
วิธีดูแล “กระเป๋าตังค์” ให้ฟูแน่น ใบม่วงจี๊ด! (มือใหม่หัดปลูก)
ต้นนี้มัน “อึด” จริงๆ แทบจะเรียกได้ว่าตายยากมากๆ แต่ถ้าอยากให้สวยปัง ใบสีม่วงจัดจ้านแบบไม่ดรอป ต้องใส่ใจแค่ 3 เรื่องหลักๆ นี้:
-
ดินปลูก (หัวใจสำคัญ): ต้องใช้ดินที่ “โปร่งและระบายน้ำได้ดีโคตรๆ” ถ้าดินแน่นแล้วน้ำขังรับรองว่ารากเน่าก่อนสวยแน่ๆ ใช้ดินร่วนผสมกาบมะพร้าวสับละเอียด หรือใช้ดินปลูกสำเร็จรูปที่ผสมหินภูเขาไฟเพื่อเพิ่มความโปร่งก็เวิร์ค
-
แสงแดด (สำคัญรองลงมา): ชอบแสงรำไรถึงร่มรำไรที่ดีที่สุดคือ “แดดเช้าอ่อนๆ” หรือแดดที่กรองผ่านมุ้งลวด/ม่าน ถ้าแสงน้อยเกินไป ใบจะยืดและสีม่วงจะซีดไม่สวย ถ้าแดดแรงไปใบจะไหม้และแห้ง ลองสังเกตสีใบดู ถ้าเริ่มซีดแปลว่าแสงน้อยไปแล้ว
-
การรดน้ำ (ตัวฆ่าต้นไม้): ใช้หลักการ “ดินแห้งแล้วค่อยรด” ไม่จำเป็นต้องรดทุกวัน อาจจะ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ วิธีเช็กง่ายๆ คือใช้นิ้วจิ้มลงไปในดินลึกประมาณ 1 นิ้ว ถ้ายังรู้สึกชื้นอยู่ก็ไม่ต้องรด ปล่อยให้ดินได้แห้งบ้าง รากจะแข็งแรงกว่าการแฉะตลอดเวลา
-
ปุ๋ยบำรุง: เพื่อให้ใบเขียวเข้มและม่วงจัดๆ ลองให้ปุ๋ยละลายช้าสูตรเสมอ (เช่น 13-13-13) ทุก 2-3 เดือน หรือใช้ปุ๋ยน้ำสำหรับไม้ใบเดือนละครั้ง ก็จะช่วยให้แตกกอแบบไม่หยุด
การขยายพันธุ์ต่อไม่รอแล้วนะ (ง่ายกว่าที่คิด)
อยากมีกอใหม่เพิ่ม ไม่ยากเลย แค่ใช้วิธีแยกกอหรือปักชำ
-
แยกกอ: ยกทั้งกระถางออกมาแล้วแยกหน่อที่แตกออกมาใหม่ ให้มีรากติดไปด้วย จากนั้นนำไปปลูกลงกระถางใหม่ที่ดินระบายน้ำดี ปลูกเสร็จก็รดน้ำเบาๆ แล้วพักไว้ในที่ร่มรำไร 1-2 สัปดาห์ก็ตั้งตัวได้แล้ว
-
ปักชำยอด: ตัดส่วนยอดที่มีข้อติดอยู่ประมาณ 2-3 ข้อ นำไปปักลงในดินร่วน หรือแช่น้ำยาเร่งรากก่อนปักชำ ต้นนี้ติดง่ายมากจริงๆ ไม่นานก็จะออกรากและแตกใบใหม่ให้เราได้เอาไปตั้งมุมอื่นๆ ในบ้านได้อีกหลายกระถางเลย
ข้อควรระวังเล็กน้อย (เรื่องสำคัญ)
ถึงจะเลี้ยงง่าย แต่ก็มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ควรรู้ไว้เพื่อความปลอดภัย:
-
ยาง/น้ำเลี้ยง: ยางที่ออกมาจากต้น อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองสำหรับบางคนที่แพ้ง่าย แนะนำให้ล้างมือทุกครั้งหลังตัดแต่งกิ่งหรือสัมผัสยางต้น
-
สัตว์เลี้ยง/เด็กเล็ก: ข้อมูลบางแหล่งระบุว่าหากกินเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่องปากและท้องได้ ถ้าที่บ้านมีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยงที่ชอบกัดแทะต้นไม้ ควรวางในตำแหน่งที่พ้นมือพ้นปากจะดีที่สุด
สรุปแล้ว “ต้นกระเป๋าตังค์” หรือ ว่านกาบหอย เนี่ย คือไม้มงคลสายบิวตี้ที่โคตรจะตอบโจทย์คนยุคนี้ เพราะนอกจากชื่อจะฟังแล้วดูดเงิน ดูดทรัพย์ได้ปังๆ แล้ว หน้าตายังสวยเก๋ เลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลเยอะจนปวดหัว เหมาะกับมือใหม่ที่อยากมี “ที่พึ่งทางใจ” สีเขียวๆ สักต้นไว้ในบ้าน ถ้าได้ลองปลูกแล้วหมั่นดูแลให้งามๆ มันก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์เตือนใจให้เราตั้งใจทำงาน ดูแลการเงินให้ดี ถ้าต้นไม้เราสวยปัง กระเป๋าตังค์เราก็ต้องปังตามไปด้วยจริงมั้ยล่ะ? ใครอ่านจบแล้วรีบไปหามาปลูกด่วนๆ แล้วจะมารีวิวความปังให้ฟังนะ!
FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับต้นกระเป๋าตังค์
Q1: ถ้าปลูกในคอนโด/ห้องที่ไม่มีแดดส่องเลย จะรอดไหม แล้วจะเฮงอยู่หรือเปล่า? A: รอดแน่นอน แต่ต้องทำใจว่าสีม่วงของใบอาจจะไม่จัดจ้านเท่าต้นที่ได้แดดรำไร วิธีแก้คือให้วางใกล้หน้าต่างที่สุด แม้จะไม่มีแดดตรงๆ ส่อง แต่ก็ยังได้ความสว่างจากภายนอก ซึ่งถือเป็นแสงรำไรแบบอ้อมๆ ก็พอจะทำให้เขาสังเคราะห์แสงและเติบโตได้ ส่วนเรื่องความเฮงยังอยู่ครบนะ เพราะหลักๆ คือพลังงานและชื่อมงคลของเขา แค่ต้นยังเขียวอยู่ก็ถือว่าโอเคแล้ว
Q2: ว่านกาบหอย มีกี่สายพันธุ์? แล้วต้องเลือกสีใบแบบไหนถึงจะปังเรื่องเงินที่สุด? A: ว่านกาบหอยมีหลายสายพันธุ์ย่อยนะ ที่นิยมมากๆ คือพันธุ์ที่มีใบเขียวด้านบนและม่วงด้านล่าง แต่ถ้าอยากได้ความปังแบบสุดๆ แนะนำให้มองหาสายพันธุ์ที่สีม่วงจัดจ้านมากๆ (เหมือนกระเป๋าสตางค์สีม่วง) หรือพันธุ์ที่มีสี “ด่าง” (Tricolor) ซึ่งจะมีสีชมพู/ขาว/เขียว/ม่วง ผสมกัน เชื่อกันว่ายิ่งมีสีสันเยอะ ยิ่งดึงดูดโชคลาภได้หลากหลายและน่าสนใจกว่า
Q3: ยางของต้นกระเป๋าตังค์เป็นอันตรายกับคน/สัตว์เลี้ยงมากแค่ไหน? ต้องระวังอะไรเป็นพิเศษไหม? A: ยางจากต้นกระเป๋าตังค์อยู่ในกลุ่มพืชที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ (เป็นพิษอ่อนๆ) โดยเฉพาะกับผิวหนังและเยื่อบุอ่อนๆ ถ้าผิวแพ้ง่ายเมื่อสัมผัสยางแล้วอาจมีอาการคันหรือเป็นผื่นได้ สำหรับสัตว์เลี้ยง หากเผลอกัดแทะเข้าไปอาจทำให้อาเจียนหรือระคายเคืองในช่องปากได้ ทางที่ดีที่สุดคือวางให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และล้างมือทุกครั้งหลังตัดแต่งกิ่งเพื่อความสบายใจ
